♡ Summer Day ♥ Winter Night ♡
Couple : Kris x Suho
Rate : ใสๆ โรแมนติก
Author : LuvKrisho
- Season 1 -
เสียงช้อนโลหะกระทบกับแก้วกระเบื้องหมุนวนให้ส่วนผสมที่เพิ่งใส่ลงไป
มือขาวค่อยๆ ยกช้อนออกมาวางในจานรองแก้วอย่างเบามือ
รอยยิ้มดีใจที่กำลังจะได้กินของโปรดฉาบฉายบนใบหน้าขาวกลมที่ตอนนี้ยังมีสีแดงจางๆ
หลงเหลืออยู่
“หนาวไหม”
เสียงทุ้มเอ่ยถามตอนที่คนตรงข้ามกำลังยกแก้วขึ้นกินหลังจากที่ลองชิมดูแล้วว่าไม่ร้อนจนเกินที่ปากเล็กจะรับไหว
“หืม?”
“ฉันถามว่าตอนมาหนาวไหม”
คริสถามย้ำกับคนหน้ากลมที่ตอนนี้กำลังทำตาโตสงสัยในคำถาม
แต่ก็ต้องส่ายหน้าให้เป็นเชิงว่า “ไม่หนาวเลย”
“จะไม่หนาวได้ไง
แก้มยังแดอยู่เลยไม่ยอมเอาผ้าพันคอมาปิดปากเหรอ”
“ก็เรารีบมากลัวว่าถ้ามาสายคริสจะโกรธน่ะสิ”
เสียงเล็กตอบกลับพร้อมกับยู่ปากแต่มือก็ยังถือแก้วโกโก้ร้อนของโปรดไม่ยอมวาง
ดวงตาผลุบลงมองต่ำจนทำให้คนที่เพิ่งแสดงความห่วงใยอดอมยิ้มกับท่าทางแบบนี้ไม่ได้
ก็อะไรซะอีกล่ะ
ทุกครั้งที่คริสดุสีหน้าของจุนมยอนจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งและก็ทำให้คนที่แสร้งทำเป็นดุชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งคนหน้ากลมแบบนี้
“ทีหลังพันผ้าปิดคอและปิดปากด้วยนะ
หายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปจะทำให้ป่วยนะรู้ไหม”
ชายหนุ่มลุกขึ้นโน้มตัวมาพันผ้าพันคอให้กับคนตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี
สายตาที่ประสานกันโดยไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้โลกเหมือนกำลังหยุดหมุน
ใบหน้าหล่อคมเข้มค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใกล้ใบหน้าขาวจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
แต่ก็ทำได้เพียงแค่ปลายจมูกชนกัน
“คุณคริสคะ
นี่จิตใจจะไม่เข้าไปช่วยในครัวเลยเหรอคะ ห๊า!!!!!! ค่าแรงวันนี้อยากได้แค่ครึ่งเดียวใช่ไหม โอ๊ะ
จุนมยอนพี่ขอโทษที่เสียงดังนะจ๊ะ คงตกใจแย่เลย”
“ไม่เป็นไรครับ
คริสไปช่วยพี่ทำงานเถอะ เรานั่งรอตรงนี้คนเดียวได้”
“โอเค
ถ้าเก็บล้างเสร็จก็คงได้กลับบ้านเลย งั้นก็รอแป๊ปนะ”
กระชับผ้ากันเปื้อนให้เรียบร้อยกำลังจะเดินจากไปก็ต้องขอกำลังใจกันสักนิด
ฟอดดดดด
“อ๊ะ!!!!”
“ได้กำลังใจแล้ว
มาพี่มีอะไรให้ผมช่วยว่ามาเลยครับ” คริสขโมยหอมจากแก้มใสก่อนจะตะโกนเสียงดังสร้างความรำคาญให้คนที่อยู่ในครัวก่อนหน้านี้ไม่น้อย
มือเล็กคลำแก้มตัวเองก็อดอมยิ้มกับนิสัยทะเล้นของผู้ชายคนนี้ไม่ได้
ผู้ชายที่ค่อยๆ
มาอยู่เต็มพื้นที่ของหัวใจ
...
.
“นี่จุนมยอนฉันจะย้ายออกไปแล้วนะ”
เสียงเพื่อนรักที่ทำงานด้วยกันและร่วมแชร์ห้องกันมานานหลายปีกำลังจะย้ายออกไปเจ้าของชื่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ผุดลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเพื่อนในทันที
“นายจะย้ายไปไหน?”
“ไปอยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงานใหม่น่ะ
นายคงไม่ว่าอะไรฉันนะ” มือเล็กกุมด้วยสองมือของเพื่อนรัก สายตาที่มองกันและกันมันยากที่จะอธิบายทั้งใจหายที่เพื่อนร่วมห้องกำลังจะย้ายและก็ดีใจกับงานใหม่ที่ดีกว่าปัจจุบัน
“ฉันจะไปว่าอะไรได้ล่ะ
แถมดีใจที่นายได้งานที่ดีนะ ฉันจะได้ไม่ต้องนั่งฟังนายบ่นเรื่องงานอีกไง”
“แหม ทำเป็นพูดมากนะ
ว่าแต่นายอยู่คนเดียวได้แน่นะจุนมยอนฉันเป็นห่วงนาย”
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันเลย
ฉันอยู่ได้ไม่เป็นไรแล้วอีกอย่างห้องนี้ก็เป็นห้องที่แม่ยกให้อยู่ก่อนที่ท่านจะจากไป
ถ้านายว่างก็แวะมาหาก็ได้นี่”
“นายไม่โกรธฉันนะ”
เสียงเริ่มแหบพร่า น้ำตาค่อยๆ รื้นขึ้นในดวงตาสวย
แต่จุนมยอนส่งยิ้มกลับไปพร้อมดึงเพื่อนขี้แยเข้ามากอดมือเล็กลูบหลังเบาๆ
“จะร้องไห้ทำไมกัน
โทรศัพท์ก็มีเหงาหรือว่าอยากบ่นใครให้ฟังก็โทรมา หยุดร้องได้แล้วนะ”
“อื้อ ขอบใจนะจุนมยอน
ขอบใจที่นายใจฉันมาตลอด ฉันจะค่อยๆ เก็บของย้ายออกนะ”
เสียงสั่นและคราบน้ำตาบนใบหน้าทำให้ร้อนถึงจุนมยอนต้องเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูส่งให้เพื่อน
ใบหน้าที่มีคราบน้ำผสมรอยยิ้มทำให้จุนมยอนอดขำไม่ได้
“นายจะต้องขนของวันไหนฉันจะได้มาช่วย”
“ไม่ต้องหรอกฉันจ้างบริษัทขนส่งมาช่วยแล้วคงน่าจะสองวันเสร็จนะ”
“อ่อ
โอเคงั้นเย็นนี้ฉันจะทำกับข้าวให้สุดฝีมือเลยนะ” จุนมยอนเอ่ยกับเพื่อนที่กำลังเลือกของลงกล่องอย่างตั้งอกตั้งใจ
“อื้ม ฉันรอกินอย่างเดียว ไม่ช่วยนะ
คิคิ”
“โอเค ไม่ต้องช่วยหรอกแค่รอกินก็พอ”
ข้าวของที่ค่อยๆ ถูกย้ายออกไปทำให้ห้องที่เคยดูเล็กกลับดูกว้างขึ้นพร้อมกับความเหงาที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
จุนมยอนกำลังจัดห้องใหม่ย้ายโน้น วางนั่น
ตกแต่งตรงนี่เพื่อให้ดูสดใสไม่ให้ดูคิดถึงเพื่อนอีกคนจนเกินไป รอยยิ้มเล็กๆ
ผุดขึ้นเมื่อหันไปเห็นกรอบรูปคู่ที่มีกันคนละใบ
“ป่านนี้คงวุ่นวายจัดห้องอยู่สินะ”
ตื๊ดด ตื๊ดด ตื๊ดด
เสียงเตือนจากนาฬิกาดิจิตอลทำให้จุนมยอนต้องหันกลับมาดู
ตัวเลขที่ปรากฏตรงหน้าคือเวลาที่ต้องไปทำงานแล้ว มือเล็กรีบกดปิดก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างหน้าตาตื่น
“หวายยย สายแล้วๆๆ” เสียงฝีเท้าที่รีบเร่งวิ่งลงมาจากหอพักที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายน้ำเต้าหู้
จนป้าเจ้าของร้านอดแปลกใจในความเร่งรีบของเด็กหนุ่มหน้ากลมไม่ได้
“จุนมยอนอย่าวิ่งเร็วนักสิ
เดี๋ยวหกล้มนะ”
“ไม่ต้องห่วงครับป้า”
รับคำอย่างดิบดีและโค้งให้กับหญิงวัยกลางคนที่ยืนส่ายหน้าอมยิ้มกับความน่ารักของเด็กที่เพิ่งวิ่งจากไป
“จุนมยอนทำไมวันนี้มาสายล่ะ” เสียงทักทายจากคนที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ถามทันทีที่เห็นคนหน้าขาวก้าวเข้ามา
รอยยิ้มแห้งๆ ถูกส่งกลับไป
“พอดีว่าฉันจัดห้องเพลินไปหน่อย
ขอโทษนะที่เข้างานช้า”
“อืม..
ไม่เป็นไรหรอกวันนี้ผู้จัดการไม่เข้าด้วย นายน่ะรอดตัวไปนะ” คนที่เพิ่งทำเสียงเข้มปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มล้อแทน
ทำเอาคนหน้าขาวอดไม่ได้ที่จะคว้าอะไรใกล้มือขว้างใส่
“นี่แหน่ะ ทำมาเป็นหน้าดุนะอี้ชิง
รู้ไหมตกใจแทบแย่นึกว่าผู้จัดการถามซะอีก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็หน้านายเวลาตกใจมันตลกดีนี่น่า
เอานะๆ มาทำงานได้แล้ว อื้ม
ตั้งแต่วันนี้เราสองคนอยู่คู่กันจนถึงร้านเลิกเลยนะจุนมยอน”
“อ่อ..
วันนี้เป็นวันเปลี่ยนเวรแล้วนี่เนอะ โอเคๆ ตามนั้น”
มินิมาร์ทที่มีลูกค้าเข้าเรื่อยๆ
จะยุ่งเป็นบางเวลาซะมากกว่า เวลาดึกก็จะเป็นพวกนักเรียนที่อ่านหนังสือสอบดึกๆ
แล้วหิวก็จะลงมาซื้อของขึ้นไปกิน คนเพิ่งเลิกงานแล้วอยากได้อาหารเบาๆ
รองท้องก่อนถึงบ้าน
ทั้งจุนมยอนและอี้ชิงจะชอบอยู่ในช่วงเวลากลางคืนซะมากกว่าเพราะว่าเป็นเวลาที่เงียบสงบดี
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
“อ่ะ ถึงเวลาปิดร้านแล้ว
ไปจุนมยอนกลับบ้านกัน” อี้ชิงเอ่ยปากชวนคนตัวขาวที่กำลังนั่งเช็คสต็อคของที่เหลืออยู่เพื่อส่งยอดให้กับคนที่จะมาอยู่เวรตอนเช้า
“อืม อีกนิดนึงอี้ชิงจะเสร็จแล้ว”
“งั้นฉันไปเอากระเป๋ามาให้แล้วกันนะ”
“โอเค ขอบใจมาก” เงยหน้ามองเพื่อนที่กำลังเดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะหันกลับมาตรวจนับและเช็คจำนวนของ
มือขาวก็จดยุกยิกลงในกระดาษ
“อ่า.. เสร็จแล้ว”
“เสร็จแล้วใช่ไหม
งั้นไปออกทางหลังร้านกัน”
อี้ชิงเดินนำจุนมยอนออกไปทางหลังร้านซึ่งเป็นทางออกที่ใช้กันประจำเวลาเอาขยะไปทิ้งหรือกลับบ้านของกะดึก
ทั้งอี้ชิงและจุนมยอนแยกทางกันเมื่อเดินมาได้สักพักและด้วยความที่กำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ
ก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างหล่นด้วยความสงสัยจึงเดินไปดูยังต้นเสียงแบบกล้าๆ กลัวๆ ดวงตาหวานเบิกโตกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า
“เฮ้ย คุณเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย”
ร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงกับเสียงเรียกยิ่งทำให้จุนมยอนตกใจทำอะไรไม่ถูก
“คุณ คุณ ตื่นสิ คุณ”
มือขาวตีเข้าที่หน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติแต่คนในอ้อมแขนกลับนอนหลับตานิ่ง
จุนมยอนตัดสินใจค้นหาหลักฐานเพื่อจะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล
แต่กลับไม่พบอะไรติดตัวเลยสักอย่าง
“เป็นคนประเภทไหนเนี่ยไม่พกบัตรประชาชน
เอาไงดีล่ะทีนี้ แต่แผลใหญ่ขนาดนี้ยังไงก็ต้องทำแผล” เลือดสีแดงสดยังคงไหลออกมาเรื่อยๆ จุนมยอนผยุงคนที่ไร้สติเดินกลับไปทางเก่าเพื่อพาไปในที่ที่ปลอดภัยสำหรับหนุ่มนิรนามคนนี้
TBC ♥
LuvKrisHo Talk :: ขอบคุณที่รักและรอกันมาถึงเปิดตัวซีซั่น 1 นะคะ :) แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้ว บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าฟิคเรื่องนี้จะคล้ายกับหนังฮ่องกงแอคชั่นเรื่องนึงที่ไรท์เตอร์ชอบมาก แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ จำได้แต่เนื้อเรื่องเพียงบางส่วนเท่านั้น ก็จะเลยขอเอามามิกซ์แอนด์แมทช์กับคู่รัก โย่งเตี้ย คู่นี้
ขอบคุณที่รัก คริสโฮ และ เด็ก EXO นะคะ
ขอร้องเสมอในช่วงท้ายฟิคของตัวเองว่า อย่าเอา FIC ไปทำเป็น FACT เลยนะคะ