Sunday, April 13, 2014

[Season 1] ♡ Summer Day ♥ Winter Night ♡

♡ Summer  Day ♥ Winter Night ♡
Couple : Kris x Suho
Rate : ใสๆ โรแมนติก
Author : LuvKrisho


- Season 1 -

เสียงช้อนโลหะกระทบกับแก้วกระเบื้องหมุนวนให้ส่วนผสมที่เพิ่งใส่ลงไป มือขาวค่อยๆ ยกช้อนออกมาวางในจานรองแก้วอย่างเบามือ รอยยิ้มดีใจที่กำลังจะได้กินของโปรดฉาบฉายบนใบหน้าขาวกลมที่ตอนนี้ยังมีสีแดงจางๆ หลงเหลืออยู่

“หนาวไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามตอนที่คนตรงข้ามกำลังยกแก้วขึ้นกินหลังจากที่ลองชิมดูแล้วว่าไม่ร้อนจนเกินที่ปากเล็กจะรับไหว

“หืม?”

“ฉันถามว่าตอนมาหนาวไหม” คริสถามย้ำกับคนหน้ากลมที่ตอนนี้กำลังทำตาโตสงสัยในคำถาม แต่ก็ต้องส่ายหน้าให้เป็นเชิงว่า “ไม่หนาวเลย”

“จะไม่หนาวได้ไง แก้มยังแดอยู่เลยไม่ยอมเอาผ้าพันคอมาปิดปากเหรอ”

“ก็เรารีบมากลัวว่าถ้ามาสายคริสจะโกรธน่ะสิ” เสียงเล็กตอบกลับพร้อมกับยู่ปากแต่มือก็ยังถือแก้วโกโก้ร้อนของโปรดไม่ยอมวาง ดวงตาผลุบลงมองต่ำจนทำให้คนที่เพิ่งแสดงความห่วงใยอดอมยิ้มกับท่าทางแบบนี้ไม่ได้ ก็อะไรซะอีกล่ะ ทุกครั้งที่คริสดุสีหน้าของจุนมยอนจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งและก็ทำให้คนที่แสร้งทำเป็นดุชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งคนหน้ากลมแบบนี้

“ทีหลังพันผ้าปิดคอและปิดปากด้วยนะ หายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปจะทำให้ป่วยนะรู้ไหม” ชายหนุ่มลุกขึ้นโน้มตัวมาพันผ้าพันคอให้กับคนตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี สายตาที่ประสานกันโดยไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้โลกเหมือนกำลังหยุดหมุน ใบหน้าหล่อคมเข้มค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใกล้ใบหน้าขาวจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน แต่ก็ทำได้เพียงแค่ปลายจมูกชนกัน

“คุณคริสคะ นี่จิตใจจะไม่เข้าไปช่วยในครัวเลยเหรอคะ ห๊า!!!!!! ค่าแรงวันนี้อยากได้แค่ครึ่งเดียวใช่ไหม โอ๊ะ จุนมยอนพี่ขอโทษที่เสียงดังนะจ๊ะ คงตกใจแย่เลย”

“ไม่เป็นไรครับ คริสไปช่วยพี่ทำงานเถอะ เรานั่งรอตรงนี้คนเดียวได้”

“โอเค ถ้าเก็บล้างเสร็จก็คงได้กลับบ้านเลย งั้นก็รอแป๊ปนะ” กระชับผ้ากันเปื้อนให้เรียบร้อยกำลังจะเดินจากไปก็ต้องขอกำลังใจกันสักนิด

ฟอดดดดด

“อ๊ะ!!!!

“ได้กำลังใจแล้ว มาพี่มีอะไรให้ผมช่วยว่ามาเลยครับ” คริสขโมยหอมจากแก้มใสก่อนจะตะโกนเสียงดังสร้างความรำคาญให้คนที่อยู่ในครัวก่อนหน้านี้ไม่น้อย มือเล็กคลำแก้มตัวเองก็อดอมยิ้มกับนิสัยทะเล้นของผู้ชายคนนี้ไม่ได้

ผู้ชายที่ค่อยๆ มาอยู่เต็มพื้นที่ของหัวใจ

...
.

“นี่จุนมยอนฉันจะย้ายออกไปแล้วนะ” เสียงเพื่อนรักที่ทำงานด้วยกันและร่วมแชร์ห้องกันมานานหลายปีกำลังจะย้ายออกไปเจ้าของชื่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ผุดลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเพื่อนในทันที

“นายจะย้ายไปไหน?”

“ไปอยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงานใหม่น่ะ นายคงไม่ว่าอะไรฉันนะ” มือเล็กกุมด้วยสองมือของเพื่อนรัก สายตาที่มองกันและกันมันยากที่จะอธิบายทั้งใจหายที่เพื่อนร่วมห้องกำลังจะย้ายและก็ดีใจกับงานใหม่ที่ดีกว่าปัจจุบัน

“ฉันจะไปว่าอะไรได้ล่ะ แถมดีใจที่นายได้งานที่ดีนะ ฉันจะได้ไม่ต้องนั่งฟังนายบ่นเรื่องงานอีกไง”

“แหม ทำเป็นพูดมากนะ ว่าแต่นายอยู่คนเดียวได้แน่นะจุนมยอนฉันเป็นห่วงนาย”

“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันเลย ฉันอยู่ได้ไม่เป็นไรแล้วอีกอย่างห้องนี้ก็เป็นห้องที่แม่ยกให้อยู่ก่อนที่ท่านจะจากไป ถ้านายว่างก็แวะมาหาก็ได้นี่”

“นายไม่โกรธฉันนะ” เสียงเริ่มแหบพร่า น้ำตาค่อยๆ รื้นขึ้นในดวงตาสวย แต่จุนมยอนส่งยิ้มกลับไปพร้อมดึงเพื่อนขี้แยเข้ามากอดมือเล็กลูบหลังเบาๆ

“จะร้องไห้ทำไมกัน โทรศัพท์ก็มีเหงาหรือว่าอยากบ่นใครให้ฟังก็โทรมา หยุดร้องได้แล้วนะ”

“อื้อ ขอบใจนะจุนมยอน ขอบใจที่นายใจฉันมาตลอด ฉันจะค่อยๆ เก็บของย้ายออกนะ” เสียงสั่นและคราบน้ำตาบนใบหน้าทำให้ร้อนถึงจุนมยอนต้องเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูส่งให้เพื่อน ใบหน้าที่มีคราบน้ำผสมรอยยิ้มทำให้จุนมยอนอดขำไม่ได้

“นายจะต้องขนของวันไหนฉันจะได้มาช่วย”

“ไม่ต้องหรอกฉันจ้างบริษัทขนส่งมาช่วยแล้วคงน่าจะสองวันเสร็จนะ”

“อ่อ โอเคงั้นเย็นนี้ฉันจะทำกับข้าวให้สุดฝีมือเลยนะ” จุนมยอนเอ่ยกับเพื่อนที่กำลังเลือกของลงกล่องอย่างตั้งอกตั้งใจ

“อื้ม ฉันรอกินอย่างเดียว ไม่ช่วยนะ คิคิ”

“โอเค ไม่ต้องช่วยหรอกแค่รอกินก็พอ”

ข้าวของที่ค่อยๆ ถูกย้ายออกไปทำให้ห้องที่เคยดูเล็กกลับดูกว้างขึ้นพร้อมกับความเหงาที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จุนมยอนกำลังจัดห้องใหม่ย้ายโน้น วางนั่น ตกแต่งตรงนี่เพื่อให้ดูสดใสไม่ให้ดูคิดถึงเพื่อนอีกคนจนเกินไป รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นเมื่อหันไปเห็นกรอบรูปคู่ที่มีกันคนละใบ

“ป่านนี้คงวุ่นวายจัดห้องอยู่สินะ”

ตื๊ดด ตื๊ดด ตื๊ดด

เสียงเตือนจากนาฬิกาดิจิตอลทำให้จุนมยอนต้องหันกลับมาดู ตัวเลขที่ปรากฏตรงหน้าคือเวลาที่ต้องไปทำงานแล้ว มือเล็กรีบกดปิดก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างหน้าตาตื่น

“หวายยย สายแล้วๆๆ” เสียงฝีเท้าที่รีบเร่งวิ่งลงมาจากหอพักที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายน้ำเต้าหู้ จนป้าเจ้าของร้านอดแปลกใจในความเร่งรีบของเด็กหนุ่มหน้ากลมไม่ได้

“จุนมยอนอย่าวิ่งเร็วนักสิ เดี๋ยวหกล้มนะ”

“ไม่ต้องห่วงครับป้า” รับคำอย่างดิบดีและโค้งให้กับหญิงวัยกลางคนที่ยืนส่ายหน้าอมยิ้มกับความน่ารักของเด็กที่เพิ่งวิ่งจากไป



“จุนมยอนทำไมวันนี้มาสายล่ะ” เสียงทักทายจากคนที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ถามทันทีที่เห็นคนหน้าขาวก้าวเข้ามา รอยยิ้มแห้งๆ ถูกส่งกลับไป

“พอดีว่าฉันจัดห้องเพลินไปหน่อย ขอโทษนะที่เข้างานช้า”

“อืม.. ไม่เป็นไรหรอกวันนี้ผู้จัดการไม่เข้าด้วย นายน่ะรอดตัวไปนะ” คนที่เพิ่งทำเสียงเข้มปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มล้อแทน ทำเอาคนหน้าขาวอดไม่ได้ที่จะคว้าอะไรใกล้มือขว้างใส่

“นี่แหน่ะ ทำมาเป็นหน้าดุนะอี้ชิง รู้ไหมตกใจแทบแย่นึกว่าผู้จัดการถามซะอีก”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็หน้านายเวลาตกใจมันตลกดีนี่น่า เอานะๆ มาทำงานได้แล้ว อื้ม ตั้งแต่วันนี้เราสองคนอยู่คู่กันจนถึงร้านเลิกเลยนะจุนมยอน”

“อ่อ.. วันนี้เป็นวันเปลี่ยนเวรแล้วนี่เนอะ โอเคๆ ตามนั้น”

มินิมาร์ทที่มีลูกค้าเข้าเรื่อยๆ จะยุ่งเป็นบางเวลาซะมากกว่า เวลาดึกก็จะเป็นพวกนักเรียนที่อ่านหนังสือสอบดึกๆ แล้วหิวก็จะลงมาซื้อของขึ้นไปกิน คนเพิ่งเลิกงานแล้วอยากได้อาหารเบาๆ รองท้องก่อนถึงบ้าน ทั้งจุนมยอนและอี้ชิงจะชอบอยู่ในช่วงเวลากลางคืนซะมากกว่าเพราะว่าเป็นเวลาที่เงียบสงบดี และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

“อ่ะ ถึงเวลาปิดร้านแล้ว ไปจุนมยอนกลับบ้านกัน” อี้ชิงเอ่ยปากชวนคนตัวขาวที่กำลังนั่งเช็คสต็อคของที่เหลืออยู่เพื่อส่งยอดให้กับคนที่จะมาอยู่เวรตอนเช้า

“อืม อีกนิดนึงอี้ชิงจะเสร็จแล้ว”

“งั้นฉันไปเอากระเป๋ามาให้แล้วกันนะ”

“โอเค ขอบใจมาก” เงยหน้ามองเพื่อนที่กำลังเดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะหันกลับมาตรวจนับและเช็คจำนวนของ มือขาวก็จดยุกยิกลงในกระดาษ

“อ่า.. เสร็จแล้ว”

“เสร็จแล้วใช่ไหม งั้นไปออกทางหลังร้านกัน” อี้ชิงเดินนำจุนมยอนออกไปทางหลังร้านซึ่งเป็นทางออกที่ใช้กันประจำเวลาเอาขยะไปทิ้งหรือกลับบ้านของกะดึก ทั้งอี้ชิงและจุนมยอนแยกทางกันเมื่อเดินมาได้สักพักและด้วยความที่กำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างหล่นด้วยความสงสัยจึงเดินไปดูยังต้นเสียงแบบกล้าๆ กลัวๆ ดวงตาหวานเบิกโตกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า

“เฮ้ย คุณเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย” ร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงกับเสียงเรียกยิ่งทำให้จุนมยอนตกใจทำอะไรไม่ถูก

“คุณ คุณ ตื่นสิ คุณ” มือขาวตีเข้าที่หน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติแต่คนในอ้อมแขนกลับนอนหลับตานิ่ง จุนมยอนตัดสินใจค้นหาหลักฐานเพื่อจะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่กลับไม่พบอะไรติดตัวเลยสักอย่าง

“เป็นคนประเภทไหนเนี่ยไม่พกบัตรประชาชน เอาไงดีล่ะทีนี้ แต่แผลใหญ่ขนาดนี้ยังไงก็ต้องทำแผล” เลือดสีแดงสดยังคงไหลออกมาเรื่อยๆ จุนมยอนผยุงคนที่ไร้สติเดินกลับไปทางเก่าเพื่อพาไปในที่ที่ปลอดภัยสำหรับหนุ่มนิรนามคนนี้

TBC 

LuvKrisHo Talk :: ขอบคุณที่รักและรอกันมาถึงเปิดตัวซีซั่น 1 นะคะ :) แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้ว บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าฟิคเรื่องนี้จะคล้ายกับหนังฮ่องกงแอคชั่นเรื่องนึงที่ไรท์เตอร์ชอบมาก แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ จำได้แต่เนื้อเรื่องเพียงบางส่วนเท่านั้น ก็จะเลยขอเอามามิกซ์แอนด์แมทช์กับคู่รัก โย่งเตี้ย คู่นี้ 

ขอบคุณที่รัก คริสโฮ และ เด็ก EXO นะคะ

ขอร้องเสมอในช่วงท้ายฟิคของตัวเองว่า อย่าเอา FIC ไปทำเป็น FACT เลยนะคะ 

No comments:

Post a Comment